Pink Wing Pointer

วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2559

กิจกรรมที่ 3 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์


ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์

ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์

         
          1. คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจ 
          2. ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล 
          3. จัดทำเค้าโครงของโครงงาน 
          4. การลงมือทำโครงงาน 
          5. การเขียนรายงาน 
          6. การนำเสนอและแสดงโครงงาน

1. คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจ
          โดยทั่วไปเรื่องที่จะนำมาพัฒนาเป็นโครงงานคอมพิวเตอร์ มักจะได้มาจากปัญหา คำถาม หรือความสนใจในเรื่องต่างๆ จากการสังเกตสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์ หรือสิ่งต่างๆ รอบตัว ปัญหาที่จะนำมาพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ได้จากแหล่งต่างๆ กัน ดังนี้ 
          1. การอ่านค้นคว้าจากหนังสือ เอกสาร หนังสือพิมพ์ หรือวารสารต่างๆ
          2. การไปเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ
          3. การฟังบรรยายทางวิชาการ รายการวิทยุและโทรทัศน์ รวมทั้งการสนทนาอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างเพื่อนนักเรียนหรือกับบุคคลอื่นๆ
          4. กิจกรรมการเรียนการสอนในโรงเรียน
          5. งานอดิเรกของนักเรียน
          6. การเข้าชมงานนิทรรศการหรืองานประกวดโครงงานคอมพิวเตอร์
ในการตัดสินใจเลือกหัวข้อที่จะนำมาพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ ควรพิจารณาองค์ประกอบสำคัญ ดังนี้
          1. ต้องมีความรู้และทักษะพื้นฐานอย่างเพียงพอในหัวข้อเรื่องที่จะศึกษา
          2. สามารถจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องได้
          3. มีแหล่งความรู้เพียงพอที่จะค้นคว้าหรือขอคำปรึกษา
          4. มีเวลาเพียงพอ
          5. มีงบประมาณเพียงพอ
          6. มีความปลอดภัย 


2. ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล
          การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล ซึ่งรวมถึงการขอคำปรึกษาจากผู้ทรงคุณวุฒิ จะช่วยให้นักเรียนได้แนวคิดที่ใช้ในการกำหนดขอบเขตของเรื่องที่จะศึกษาได้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น รวมทั้งได้ความรู้เพิ่มเติมในเรื่องที่จะศึกษาจนสามารถใช้ออกแบบและวางแผนดำเนินการทำโครงงานนั้นได้อย่างเหมาะสม ในการศึกษาจะต้องได้คำตอบว่า
          1. จะทำ อะไร
          2. ทำไมต้องทำ
          3. ต้องการให้เกิดอะไร
          4. ทำอย่างไร
          5. ใช้ทรัพยากรอะไร
          6. ทำกับใคร
          7. เสนอผลอย่างไร 


3. องค์ประกอบของเค้าโครงของโครงงาน 
รายงานรายละเอียดที่ต้องระบุ
ชื่อโครงงานทำอะไร กับใคร เพื่ออะไร
ประเภทโครงงานวิเคราะห์จากลักษณะของประโยชน์หรือผลงานที่ได้
ชื่อผู้จัดทำโครงงานผู้รับผิดชอบโครงงาน อาจเป็นรายบุคคล หรือรายกลุ่มก็ได้
ครูที่ปรึกษาโครงงานครู-อาจารย์ผู้ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา และควบคุมการทำโครงงานของนักเรียน
ครูที่ปรึกษาร่วมครู-อาจารย์ผู้ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาร่วม ให้คำแนะนำในการทำโครงงานของนัีกเรียน
ระยะเวลาดำเนินงานระยะเวลาการดำเนินงานโครงงาน ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด กำหนดเป็นวัน หรือ เดือนก็ได้
แนวคิด ที่มา และความสำคัญสภาพปัจจุบันที่เป็นความต้องการและความคาดหวังที่จะเกิดผล
วัตถุประสงค์สิ่งที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดโครงงานทั้งในเชิงกระบวนการ และผลผลิต
หลักการและทฤษฎี  หลักการและทฤษฎีที่นำมาใช้ในการพัฒนาโครงงาน
วิธีดำเนินงาน กิจกรรมหรือขั้นตอนการดำเนินงาน เครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ งบประมาณ และผู้ัรับผิดชอบ
ขั้นตอนการปฏิบัติ  วัน เวลา และกิจกรรมดำเนินการต่างๆ ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด
ผลที่คาดว่าจะได้รับ สภาพของผลที่ต้องการให้เกิด ทั้งที่เป็นผลผลิต กระบวนการ และผลกระทบ
เอกสารอ้างอิงสื่อเอกสาร ข้อมูลที่ได้จากแหล่งต่างๆ ที่นำมาใช้ในการดำเนินงาน


 4. การลงมือทำโครงงาน
          เมื่อเค้าโครงของโครงงานได้รับความเห็นชอบจากอาจารย์ที่ปรึกษาแล้ว ก็เสมือนว่าการจัดทำโครงงานได้ผ่านพ้นไปแล้วมากกว่าครึ่ง ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการลงมือพัฒนาตามขั้นตอนที่วางแผนไว้ ดังนี้
     4.1 การเตรียมการ
          การเตรียมการ ต้องเตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอื่นๆ ที่จะใช้ในการพัฒนาให้พร้อมด้วย และควรเตรียมสมุดบันทึกหรือบันทึกเป็นแฟ้มข้อความไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ สำหรับบันทึกการทำกิจกรรมต่างๆ ระหว่างทำโครงงาน ได้แก่ ได้ปฏิบัติอย่างไร ได้ผลอย่างไร มีปัญหาและแก้ไขได้หรือไม่อย่างไร รวมทั้งข้อสังเกตต่างๆ ที่พบ
     4.2 การลงมือพัฒนา
          1. ปฏิบัติตามแผนงานที่วางไว้ในเค้าโครง แต่อาจเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมได้ถ้าพบว่าจะช่วยทำให้ผลงานดีขึ้น
          2. จัดระบบการทำงานโดยทำส่วนที่เป็นหลักสำคัญๆ ให้แล้วเสร็จก่อน จึงค่่อยทำ ส่วนที่เป็นส่วนประกอบหรือส่วนเสริมเพื่อให้โครงงานมีความสมบูรณ์มากขึ้น และถ้ามีการแบ่งงานกันทำ ให้ตกลงรายละเอียดในการต่อเชื่อมชิ้นงานที่ชัดเจนด้วย
          3. พัฒนาระบบงานด้วยความละเอียดรอบคอบ และบันทึกข้อมูลไว้อย่างเป็นระบบและครบถ้วน 
     4.3 การทดสอบผลงานและแก้ไข
          การตรวจสอบความถูกต้องของผลงาน เป็นความจำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าผลงานที่พัฒนาขึ้นทำงานได้ถูกต้องตรงกับความต้องการ ที่ระบุไว้ในเป้าหมายและทำด้วยประสิทธิภาพสูงด้วย 
     4.4 การอภิปรายและข้อเสนอแนะ
          เมื่อพัฒนาผลงานเรียบร้อยแล้ว ให้จัดทำสรุปด้วยข้อความที่สั้นกะทัดรัดอย่างครอบคลุม เพื่อช่วยให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงสิ่งที่ค้นพบจากการทำโครงงาน และทำการอภิปรายผลด้วย เพื่อพิจารณาข้อมูลและผลที่ได้ พร้อมกับนำ ไปหาความสัมพันธ์กับหลักการ ทฤษฎี หรือผลงานที่ผู้อื่นได้ศึกษาไว้แล้ว ทั้งนี้ยังรวมถึงการนำหลักการ ทฤษฎี หรือผลงานของผู้อื่นมาใช้ประกอบการอภิปรายผลที่ได้ด้วย
     4.5 แนวทางการพัฒนาโครงงานในอนาคตและข้อเสนอแนะ
          เมื่อทำโครงงานเสร็จสิ้นลงแล้ว นักเรียนอาจพบข้อสังเกต ประเด็นที่สำคัญ หรือปัญหา ซึ่งสามารถเขียนเป็นข้อเสนอแนะและสิ่งที่ควรจะศึกษาและหรือใช้ประโยชน์ต่อไปได้ 
 


5. การเขียนรายงาน
          การเขียนรายงานเป็นวิธีการสื่อความหมายเพื่อให้ผู้อื่นได้เข้าใจแนวคิด วิธีดำเนินการศึกษาค้นคว้า ข้อมูลที่ได้ ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่างๆ เกี่ยวกับโครงงานนั้น ในการเขียนรายงานนักเรียนควรใช้ภาษาที่อ่านง่าย ชัดเจน กระชับ และตรงไปตรงมา ให้ครอบคลุมหัวข้อต่างๆเหล่านี้
     5.1 ส่วนนำ
          ส่วนนำ เป็นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงงานนั้นซึ่งประกอบด้วย
          1. ชื่อโครงงาน
          2. ชื่อผู้ทำโครงงาน
          3. ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา
          4. คำขอบคุณ เป็นคำกล่าวขอบคุณบุคคลหรือหน่วยงาน ที่มีส่วนช่วยทำให้โครงงานสำเร็จ
          5. บทคัดย่อ อธิบายถึงที่มา ความสำคัญ วัตถุประสงค์ วิธีดำเนินการ และผลที่ได้โดยย่อ
     5.2 บทนำ
          บทนำเป็นส่วนรายละเอียดของเนื้อหาของโครงงานซึ่งประกอบด้วย
          1. ที่มาและความสำคัญของโครงงาน
          2. เป้าหมายของการศึกษาค้นคว้า
          3. ขอบเขตของโครงงาน
     5.3 หลักการและทฤษฎี
          หลักการและทฤษฎี เป็นส่วนสรุปข้อมูลที่ได้จากการศึกษาหาข้อมูลหรือหลักการ ทฤษฎี หรือวิธีการที่จะนำมาใช้ในการพัฒนาโครงงาน ซึ่งรวมถึงการระบุผลงานของผู้อื่นที่นักเรียนนำมาเปรียบเทียบหรือพัฒนาเพิ่มเติมด้วย 
     5.4 วิธีดำเนินการ
          วิธีดำเนินการ อธิบายขั้นตอนการดำเนินงานโดยละเอียด พร้อมทั้งระบุปัญหาหรืออุปสรรคที่พบพร้อมทั้งวิธีการที่ใช้แก้ไข พร้อมทั้งระบุวัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการทำงาน  
     5.5 ผลการศึกษา
          ผลการศึกษา นำเสนอข้อมูลหรือระบบที่พัฒนาได้ โดยอาจแสดงเป็นตาราง หรือ กราฟ หรือข้อความ ทั้งนี้ให้คำนึงถึงความเข้าใจของผู้อ่านเป็นหลัก  
     5.6 สรุปผลและข้อเสนอแนะ
          สรุปผลและข้อเสนอแนะ อธิบายผลสรุปที่ได้จากการทำ งาน ถ้ามีการตั้งสมมติฐานควรระบุด้วยว่าข้อมูลที่ได้สนับสนุนหรือคัดค้านสมมติฐานที่ตั้งไว้หรือยังสรุปไม่ได้ นอกจากนั้นยังควรกล่าวถึงการนำ ผลการทดลองหรือพัฒนาไปใช้ประโยชน์ อุปสรรคของการทำโครงงาน หรือข้อสังเกตที่สำคัญ หรือข้อผิดพลาดบางประการที่เกิดขึ้นจากการทำ โครงงานนี้ รวมทั้งข้อเสนอแนะเพื่อการปรับปรุงแก้ไขหากจะมีผู้ศึกษาค้นคว้าในเรื่องทำนองนี้ต่อไปในอนาคตด้วย  
     5.7 ประโยชน์
          ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงงาน ระบุประโยชน์ที่นักเรียนได้รับจากการพัฒนาโครงงานนั้น และประโยชน์ที่ผู้ใช้จะได้รับจากการนำผลงานของโครงงานไปใช้ด้วย  
     5.8 บรรณานุกรม
          บรรณานุกรม รวบรวมรายชื่อหนังสือ วารสาร เอกสาร หรือเว็บไซด์ต่างๆ ที่ผู้ทำ โครงงานใช้ค้นคว้า หรืออ่านเพื่อศึกษาข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ ที่นำมาใช้ประโยชน์ในการทำ โครงงานนี้การเขียนเอกสารบรรณานุกรมต้องให้ถูกต้องตามหลักการเขียนด้วย  
     5.9 การจัดทำคู่มือการใช้งาน
          หาโครงงานที่นักเรียนจัดทำ เป็นการพัฒนาระบบใหม่ขึ้นมา ให้นักเรียนจัดทำคู่มืออธิบายวิธีการใช้ผลงานนั้นโดยละเอียด ซึ่งประกอบด้วย
          1. ชื่อผลงาน
          2. ความต้องการของระบบคอมพิวเตอร์ ระบุรายละเอียดของคอมพิวเตอร์ที่ต้องมีเพื่อจะใช้ผลงานนั้นได้
          3. ความต้องการของซอฟต์แวร์ ระบุรายชื่อซอฟต์แวร์ที่ต้องมีอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อจะให้ผลงานนั้นทำงานได้อย่างสมบูรณ์
          4. คุณลักษณะของผลงาน อธิบายว่าผลงานนั้นทำ หน้าที่อะไรบ้าง รับอะไรเป็นข้อมูลขาเข้าและส่วนอะไรออกมาเป็นข้อมูลขาออก
          5. วิธีการใช้งานของแต่ละฟังก์ชัน อธิบายว่าจะต้องกดคำสั่งใด หรือกดปุ่มใด เพื่อให้ผลงานทำงานในฟังก์ชันหนึ่งๆ   


6. การนำเสนอและแสดงโครงงาน
          การนำเสนอและการแสดงผลงานเป็นขั้นตอนที่สำคัญอีกขั้นตอนหนึ่งของการทำโครงงาน เพื่อแสดงออกถึงผลิตผลความคิด ความพยายามในการทำงานที่ผู้ทำโครงงานได้ทุ่มเท และเป็นวิธีทำให้ผู้อื่นได้รับรู้และเข้าใจถึงผลงานนั้น การเสนอผลงานอาจทำได้ในหลายรูปแบบต่างๆ กัน เช่น การแสดงผลงานโดยไม่มีการอธิบายประกอบการรายงานด้วยคำพูดในที่ประชุม การจัดนิทรรศการโดยโปสเตอร์และอธิบายด้วยคำพูด เป็นต้น โดยผลงานที่นำมาเสนอหรือจัดแสดงควรประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้
          1. ชื่อโครงงาน
          2. ชื่อผู้จัดทำโครงงาน
          3. ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา
          4. คำอธิบายถึงที่มาและความสำคัญของโครงงาน
          5. วิธีการดำเนินการที่สำคัญ
          6. การสาธิตผลงาน
          7. ผลการสังเกตและข้อสรุปสำคัญที่ได้จากการทำโครงงาน



กิจกรรมที่ 1 ความหมาย ความสำคัญ และขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์



ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์






ขอบข่ายของโครงงาน  

        ขอบข่ายของโครงงาน ดำเนินงานโดยนักเรียน เป็นผู้ริเริ่มสร้างสรรค์ และครูอาจารย์ เป็นผู้ให้คำแนะนำปรึกษา มีองค์ประกอบดังนี้ 
        
        1. เป็นกิจกรรมการเรียนให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอาศัยหลักวิชาการทางทฤษฎีตาม เนื้อหาโครงงานนั้นๆ หรือจากประสบการณ์และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้พบเห็นมาแล้ว 
        
        2. นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทาโครงงานด้วยตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลาสั้นๆ เป็นภาคเรียน หรือมากกว่าก็ได้ แล้วแต่โครงงานเล็กหรือใหญ่ 
        
        3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้าปฏิบัติด้วยตนเองตามความถนัด สนใจ และความพร้อม 
       
        4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบัติงานและการแปลผล รายงานผลต่ออาจารย์ ที่ปรึกษา เพื่อดำเนินงานร่วมกันให้บรรลุตามจุดหมายที่กำหนดไว้ 
        
        5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและสติปัญญา รวมทั้งการใช้จ่ายเงินในการดำเนินงานด้วย

cr. http://www.slideshare.net/maythirasriwichai/ss-25052043


ประโยชน์ของโครงงานคอมพิวเตอร์

        การทำโครงงานคอมพิวเตอร์และการจัดงานแสดงโครงงานจะมีคุณค่าต่อการฝึกฝนให้นักเรียนมีความรู้ ความชำนาญ และมีความมั่นใจในการนำระบบคอมพิวเตอร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้นหรือค้นคว้าหาความรู้ต่าง ๆ ด้วยตนเองและยังมีคุณค่าอื่น ๆ อีกดังต่อไปนี้
        
        1. สร้างความสำนึกและความรับผิดชอบในการศึกษาและพัฒนาระบบด้วยตนเอง
        
        2. เปิดโอกาสให้นักเรียนได้พัฒนาและแสดงความสามารถตามศักยภาพของตนเอง
        
        3. เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ศึกษา ค้นคว้า และเรียนรู้ในเรื่องที่นักเรียนสนใจได้ลึกซึ้งกว่าการเรียนในห้องตามปกติ        
        4. ส่งเสริมและพัฒนากระบวนการคิด การแก้ปัญหา การตัดสินใจ รวมทั้งการสื่อสารระหว่างกัน        
        5. กระตุ้นให้นักเรียนมีความสนใจในการเรียนวิชาสาขาคอมพิวเตอร์ และมีความสนใจที่จะประกอบอาชีพทางด้านนี้        
        6. ส่งเสริมให้นักเรียนได้ใช้เวลาอย่างเป็นประโยชน์ในทางสร้างสรรค์        
        7. สร้างความสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนกับครูและชุมชน รวมทั้งส่งเสริมให้ชุมชนสนใจคอมพิว เตอร์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องมากขึ้น        
        8. เป็นการบูรณาการเอาความรู้จากวิชาต่าง ๆ ที่ได้รับมาจัดทำผสมผสานกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์เป็นโครงงานเพื่อนำเสนอต่อชุมชน การจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์นั้น นักเรียนควรมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ เหตุผลที่ใช้ในการแก้ปัญหา กระบวนการแก้ปัญหา หลักการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น และการแทนข้อมูลในคอมพิวเตอร์ ก่อนที่จะเริ่มทำโครงงาน และใช้ความรู้ดังกล่าวเป็นพื้นฐานในการสร้างความรู้ใหม่ในโครงงานคอมพิวเตอร์ โดยในการทำโครงงานนักเรียนอาจจะมีโอกาสได้ทำความรู้จักกับความรู้ใหม่เพิ่มเติมอีกด้วย เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ฐานข้อมูล (Database) และการสืบค้นข้อมูล (Information Retrieval) เป็นต้น ซึ่งจะขึ้นอยู่กับหัวข้อที่นักเรียนเลือกทำโครงงาน


cr.https://banh01.wordpress.com/2011/02/09/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%9E/



ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับโครงงานคอมพิวเตอร์




















วันเสาร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2559

ใบงานที่ 4 คลังข้อสอบ


คลังข้อสอบ

http://www.trueplookpanya.com/data/product/uploads/other1/go_on_AD60.png


ปฏิทิน เตรียมสอบ ปี 60

http://www.webythebrain.com


GAT PAT คืออะไร ?

      GAT เป็นการทดสอบวิชาความถนัดทั่วไป (General Aptitude Test) คือ การวัดศักยภาพในการเรียนในมหาวิทยาลัย
ให้ประสบความสำเร็จ มี 2 ส่วน คือ
  • ส่วนที่ 1 คือ ความสามารถในการอ่าน/การเขียน/การคิดเชิงวิเคราะห์/และการแก้โจทย์ปัญหา
  • ส่วนที่ 2 คือ ความสามารถในการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ ประกอบด้วย
    • Speaking and Conversation
    • Vocabulary
    • Structure and Writing
    • Reading Comprehension
      PAT เป็นการทดสอบวิชาความถนัดทางวิชาการและวิชาชีพ (Professional and Academic Aptitude Test) 
คือ การวัดความรู้ที่เป็นพื้นฐาน กับศักยภาพที่จะเรียนในวิชาชีพนั้น ๆ ให้ประสบความสำเร็จมี 7 วิชา คือ
  • PAT 1 คือ ความถนัดทางคณิตศาสตร์
  • PAT 2 คือ ความถนัดทางวิทยาศาสตร์
  • PAT 3 คือ ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์
  • PAT 4 คือ ความถนัดทางสถาปัตยกรรมศาสตร์
  • PAT 5 คือ ความถนัดทางวิชาชีพครู
  • PAT 6 คือ ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์
  • PAT 7 คือ ความถนัดทางภาษาต่างประเทศ ประกอบด้วย
    • PAT 7.1 ความถนัดทางภาษาฝรั่งเศส
    • PAT 7.2 ความถนัดทางภาษาเยอรมัน
    • PAT 7.3 ความถนัดทางภาษาญี่ปุ่น
    • PAT 7.4 ความถนัดทางภาษาจีน
    • PAT 7.5 ความถนัดทางภาษาอาหรับ
    • PAT 7.6 ความถนัดทางภาษาบาลี
ข้อสอบ
ข้อสอบ GAT / PAT ครั้งที่ 1 ปี 2552
ข้อสอบ GAT/PAT ครั้งที่ 2 ปี 2552
ข้อสอบ GAT / PAT ครั้งที่ 3 ปี2552
ข้อสอบ GAT / PAT ครั้งที่ 1 ปี 2553
ข้อสอบ GAT / PAT ครั้งที่ 2 ปี 2553
ข้อสอบ GAT / PAT ครั้งที่ 3 ปี 2553
ข้อสอบ GAT / PAT ครั้งที่ 1 ปี 2554
ข้อสอบ PAT ครั้งที่ 1 ปี 2555
ข้อสอบ PAT ครั้งที่ 1 ปี 2556
ข้อสอบ PAT ครั้งที่ 2 ปี 2556
ข้อสอบ PAT1 ครั้งที่ 1 ปี 2557



9 วิชาสามัญ คืออะไร ?

      ในปีการศึกษา  2555  ทปอ. ได้มีมติเห็นชอบให้มีการจัดการระบบรับตรงผ่านเคลียริ่งเฮาส์ (Clearing - house)  โดยยึดหลักการและวัตถุประสงค์ 2 ประการ คือ 1)  มหาวิทยาลัย/สถาบันอุดมศึกษา  ดำรงไว้ซึ่งเอกสิทธิ์ในการที่จะรับนักเรียนเข้าศึกษาตามแผนพัฒนาการศึกษาของมหาวิทยาลัย  และ 2) นักเรียนมีสิทธิ์ที่จะเลือกเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาที่ตนสนใจ  หรือมีความถนัด  ดังนั้น เพื่อเป็นการรองรับระบบการรับตรงผ่านเคลียริ่งเฮาส์ดังกล่าว  ทปอ. จึงได้มอบหมายให้  สทศ. จัดการทดสอบวิชาสามัญ  ใน 7 วิชา  คือ วิชาภาษาไทย  วิชาสังคมศึกษา  วิชาภาษาอังกฤษ  วิชาคณิตศาสตร์ วิชาฟิสิกส์  วิชาเคมี และวิชาชีววิทยา  เพื่อนำผลคะแนนไปใช้ในการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาระบบรับตรง  รวมทั้งการคัดเลือกเข้าศึกษาต่อในกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย  ต่อมา ทปอ. เห็นว่า ข้อสอบกลาง  ที่จัดสอบโดย สทศ. คือ วิชาสามัญ  7  วิชา  และ  GAT/PAT มีการพัฒนาและใช้ร่วมกันในการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในระบบรับตรงแต่รายวิชาดังกล่าว  ยังไม่ครอบคลุมเนื้อหาการทดสอบของนักเรียนสายศิลป์  จึงเห็นควรเพิ่มวิชาคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนสายศิลป์ และวิทยาศาสตร์ทั่วไป  สรุปในปีการศึกษา  2559  สทศ. จะจัดการทดสอบในรายวิชา ดังนี้
1. วิชาภาษาไทย
2. วิชาคณิตศาสตร์ 1
3. วิชาคณิตศาสตร์ 2
4. วิชาสังคมศึกษา
5. วิชาฟิสิกส์
6. วิชาวิทยาศาสตร์ทั่วไป
7. วิชาภาษาอังกฤษ
8. วิชาเคมี
9. วิชาชีววิทยา

ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ ปี 2555 (สอบ ม.ค. 2555)

ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ ปี 2556 (สอบ ม.ค. 2556)

ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ ปี 2558 (สอบ ม.ค. 2558)


O - NET คืออะไร ?
   
      คือ การทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน  เป็นการทดสอบเพื่อวัดความรู้และความคิดของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ประเมินตามมาตรฐานการเรียนรู้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 จำนวน 51 มาตรฐานการเรียนรู้ ครอบคลุม 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ได้แก่
  1. ภาษาไทย
  2. คณิตศาสตร์
  3. วิทยาศาสตร์
  4. สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
  5. ภาษาอังกฤษ
ข้อสอบ

ใบงานที่ 5 บทความสารคดีที่นำมาใช้สำหรับเขียนโครงร่าง



คำศัพทย์ภาษาอังกฤษสำหรับการท่องเที่ยว

http://images.all-free-download.com/images/graphiclarge/world_travelling_elements_creative_vector_set_549529.jpg

เที่ยวบิน และ โรงแรม



ภาษาอังกฤษคำอ่านความหมาย
air ticketแอรฺ ทิคเก็ทตั๋วเครื่องบิน
Boarding Card/ Passบอรฺดิง คารฺด /พาสบัตรผ่านขึ้นเครื่องบิน
baggage / luggageแบกเกจ / ลักเกจกระเป๋าเดินทาง
Baggage Tagแบกเกจ แท็กฺป้ายติดกระเป๋า
Departure loungeดิพาทเชอ เลานจฺห้องพักผู้โดยสารขาออก
Embarkation Cardเอ็มบารฺเคเชิน คารฺดบัตรขึ้นเครื่อง
Flight numberไฟลทฺ นัมเบอรฺเที่ยวบิน
international flightอินเทอเนเชินนัล ไฟลทฺเที่ยวบินระหว่างประเทศ
domestic flightโดเมสทิค ไฟลทฺเที่ยวบินในประเทศ
window seatวินโดว ซีทที่นั่งข้างหน้าต่าง
reservationรีเซอเวเชินการจอง
airportแอรฺพอรฺทสนามบิน
terminalเทอมินัลสถานีปลายทาง
passenger planeพาสเซนเจอ เพลนเครื่องบินโดยสาร
airlineแอรฺไลนฺสายการบิน
stewardสทิวเวิดพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินชาย
air hostessแอรฺ โฮสเทสฺแอร์โฮสเตส
flight attendantไฟลทฺ แอทเทนแดนทฺพนักงานต้อนรับบนเครื่อง
seatbeltซีทเบลทฺเข็มขัดนิรภัย
Immigration Cardอิมมิเกรเชิน คารฺดบัตรลงเครื่องบิน
Disembarkation Cardดิสเอ็มบารฺเคเชิน คารฺดบัตรลงเครื่องบิน
Landing Cardแลนดิง คารฺดบัตรลงเครื่องบิน
Arrival Cardอะไรฟวัล คารฺดบัตรลงเครื่องบิน
Passengers’ entranceพาสเซนเจอสฺ เอ็นทรานซฺทางเข้าสำหรับผู้โดยสาร
see offซี ออฟมาส่ง
direct flightไดเร็ค ไฟลทฺบินตรง
stopoverสต็อปโอเวอรฺแวะจอด
Check – inเช็ค คินการตรวจเอกสารเมื่อขึ้นหรือลงเครื่อง
taking offเทคกิง ออฟการบินขึ้น
landingแลนดิงการลงจอด
arriveอะไรฟมาถึง
Customsคัสทอมสฺด่านศุลกากร
declareดีแคลรฺการแจ้งเสียภาษี
Duty free shopดิวที ฟรี ช็อพร้านค้าปลอดภาษี
taxแท็กสฺภาษี
gateเกทฺประตูขึ้นเครื่องบิน
Security checkซิคิวริที เช็คฺการตรวจหาวัตถุอันตราย
emergency exitอิเมอเจนซี เอ็กซิททางออกฉุกเฉิน
occupiedอ็อคคิวไพดฺ(ห้องน้ำ) มีคนอยู่
Vacantเวคึนทฺ(ห้องน้ำ) ว่าง
quarantineควอแรนทีนด่านตรวจโรค
immigrationอิมมิเกรเชินด่านตรวจคนเข้าเมือง
Passport Numberพาสฺปอรฺท นัมเบอรฺหมายเลขพาสปอร์ต
Vaccination Certificateแวกซิเนเชิน เซอทิฟิเคทฺบัตรรับรองการฉีดยา/วัคซีน
airsickแอรฺซิคฺเมาเครื่องบิน
flight delayไฟลท ดีเลยฺเลื่อนเวลาขึ้น – ลงเครื่อง
cancelแคนเซิลยกเลิก
carry – on / hand luggageแครี ออน / แฮนดฺ ลักเกจกระเป๋าเดินทางที่ถือขึ้นเครื่องได้
first aidเฟิสทฺ เอดฺการปฐมพยาบาล
en routeอางรูทระหว่างทาง
aboardอะบอรฺดอยู่บนเครื่อง
aircraftแอรฺคราฟทฺอากาศยาน
reconfirmรีคอนเฟิรฺมยืนยันอีกครั้ง
Country of originคันทรี ออฟ ออริจินประเทศที่เกิด
Customs declarationคัสทอมสฺ ดีแคลเรเชินใบแจ้งรายการสิ่งของนำเข้า
departure taxดิพาทเชอ แท็กสฺภาษีขาออก
destinationเดสทิเนเชินจุดหมายปลายทาง
long haul routeลอง ฮอล รูทการเดินทางระยะไกล
package tourแพกเกจฺ ทัวรฺการท่องเที่ยวแบบเหมาจ่าย
ticket agentทิคเก็ท เอเจ้นทฺตัวแทนจำหน่ายตั๋ว
time – tableไทม เทเบิลตารางเวลา
tour operatorทัวรฺ ออเพอเรเทอร์ผู้ประกอบการท่องเที่ยว
upright positionอัพไรทฺ โพซิเชินนั่งตัวตรง
visaวีซาตราประทับบนหนังสือเดินทาง
Charter planeชารฺเทอ เพลนเครื่องบินเช่าเหมาลำ
rampแรมพฺบันไดขึ้นลงเครื่องบิน
standbyสแทนดฺบายผู้สำรองที่นั่งจากคนที่อาจสละสิทธิ์
local timeโลคอลไทมฺเวลาท้องถิ่น
aisle – seatไอเซิล ซีทที่นั่งริมทางเดิน
Transit Loungeทรานซิทฺ เลานจูที่พักผู้โดยสารที่ต้องเปลี่ยนเครื่องบิน
connecting flightคอนเน็คทิง ไฟลทฺเที่ยวบินต่อ
airfareแอรฺแฟรฺค่าโดยสารเครื่องบิน
First classเฟิรฺสทคลาสตั๋วชั้นที่หนึ่ง
Business classบิสซิเนส คลาสตั๋วชั้นธุรกิจ
Economy classเอ็คคอโนมี คลาสตั๋วชั้นประหยัด
an open –end ticketแอน โอเพน เอนดฺ ทิคเก็ทตั๋วว่างที่ยังไม่ได้ confirm
a round – trip ticketเออะ ราวดฺ ทริพฺ ทิคเก็ทตั๋วไปกลับ
round tripราวดฺ ทริพฺไปกลับ
a one – way ticketวัน เวยฺ ทิคเก็ทตั๋วเที่ยวเดียว
One wayวัน เวยฺทางเดียว
single roomซิงเกิล รูมห้องเดี่ยว
double roomดับเบอล รูมห้องคู่
single bedซิงเกิล เบดเตียงเดี่ยว
double bedดับเบิล เบดเตียงคู่
twin bedsทวิน เบดสฺเตียงเดี่ยว 2 เตียง
suiteสวีทฺห้องสูท / ห้องชุด
connecting roomคอนเนคทิง รูมห้องเชื่อม2ห้องมีประตูเชื่อมติดต่อกันได้
adjoining roomแอดจอยนิง รูมห้องที่อยู่ติดกัน



คำศัพท์
คำอ่าน
ความหมายตัวอย่างการใช้ในประโยค
adjoining roomsแอดจอยนิ่ง รูมส์ห้องพักสองห้องที่เชื่อมต่อกันIf you want we can book your parents in an adjoining room.
amenitiesเอะเมนิที้ส์สิ่งอำนวยความสะดวกWe are located downtown, so we are close to all of the amenities.
attractionsแอทแทร็คเชิ่นสิ่งที่น่าสนใจThe zoo is our city’s most popularattraction for kids.
baggageแบ๊กเกจกระเป๋าเดินทางIf you need help with your baggage we have a cart you can use.
Bed and Breakfastเบ้ด เอินด์ เบร็คเฟิสท์สถานที่ให้บริการห้องพักและอาหารI can book you into a beautiful Bed and Breakfast on the lake.
bellboyเบลล์ บอยพนักงานขนกระเป๋าThe bellboy will take your bags to your room for you.
bookบุ๊คการจองห้องI can book your family in for the weekend of the seventh.
bookedบุ๊คท์ห้องที่ถูกจองแล้ว ไม่ว่างให้เข้าพักI’m afraid the hotel is booked tonight.
brochuresโบร เชิรส์แผ่นพับบอกข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวหรือสิ่งที่น่าสนใจFeel free to take some brochures to your room to look at.
check-in
verb
เช็ค-อินการเข้าพัก รับกุญแจเข้าใช้ห้องพักYou can check-in any time after 4 o’clock.
check-outเช็ค-เอ้าท์การออกจากที่พัก คืนกุญแจห้องพักPlease return your parking pass when you check-out.
complimentaryคอมพลิเม้นทริฟรีAll of our rooms have complimentarysoap, shampoo, and coffee.
cot, rollaway bedค้อท, โร้ลเลอะเวย์ เบ้ดเตียงเดี่ยวที่สามารถพับเก็บได้If you need an extra bed, we have cotsavailable.
damage chargeแดมมิจ ชาร์จค่าปรับที่ต้องจ่ายเมื่อสร้างความเสียหายให้กับห้องพักWe will have to add a damage charge for the hole you put in the wall.
depositดิ้พพาสิทค่ามัดจำYou will not receive your deposit back if you cancel.
double bedดับโบ้ล เบ้ดเตียงที่มีขนาดสำหรับผู้เข้าพัก 2 คนThey are a family of four, so give them a room with two double beds.
floorฟลอร์ชั้นของตึกนั้นๆThe swimming pool is on the main floor.
front desk, receptionฟร้อนท์เดสค์,
รีเซบเชิ่น
ที่ๆผู้เข้าพักทำการ check in และ check out และขอทราบข้อมูลต่างๆTowels are available at the front desk.
guestเก้สท์ผู้เข้าพักOur washrooms are for guests only.
hostelโฮสเทลที่พักราคาถูกเหมาะกับชาวแบ็คแพ็กเกอร์ หรือนักท่องเที่ยวที่มีงบจำกัดIn the hostel you probably won’t get your own room.
hotel managerโฮเทล เมเนเจอร์ผู้จัดการโรงแรมI’ll let you make your complaint to the hotel manager.
housekeeping, maid เฮ้าส์คี้ปปิ้ง
เหมด
แม่บ้านPut a sign on the door if you wanthousekeeping to come in and change the sheets on the bed.
indoor poolอินดอร์ พูลสระว่ายน้ำภายในอาคารThe heated indoor pool is open until 10 pm.
innอินน์คำที่ใช้แทนคำว่า Hotel ได้There’s an inn on the other side of town that has a vacancy.
Jacuzzi, hot tub, whirl poolจากุชชี่, ฮอต ทิวบ์,
เวิล
อ่างอาบน้ำ, อ่างน้ำร้อน, อ่างวนOur honeymoon room has a personal hot tub.
king size bedคิง ไซ้ส์ เบ้ดเตียงใหญ่สุดA room with a king size bed costs an extra 300 baht a night.
kitchenetteคิ้ทชิเน็ทพื้นที่ทำอาหารเล็กๆYour room has a kitchenette so you can prepare your own breakfasts and lunches.
late chargeเหลท ชาร์จค่าปรับเมื่ออยู่เกินเวลา check outYou will be charged a 100 baht late charge for checking out after 11 am.
linenลินินผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนWe will come in and change the linenswhile you are out of your room.
lobbyล็อบบี้โถงโรงแรมYou can stand in the lobby and wait for your bus.
luggage cartลั๊กเกจ คาร์ทล้อเลื่อนลากกระเป๋าเดินทางPlease return the luggage cart to the lobby when you are finished with it.
maximum capacityแม๊กซิมั่ม แค้ปเออะซิตี้จำนวนมากที่สุดที่สามารถรับได้The maximum capacity in the hot tub is ten people.
motelsโมเทลสถานที่บริการห้องพักที่ถูกกว่าโรงแรมOur motel is very clean and is close to the beach.
noisyน้อยซี่เสียงดังThe guests next to you have complained that you are being toonoisy.
parking passพ้าร์กกิ่ง พ้าสใบอนุญาตให้จอดรดภายในโรงแรมDisplay this parking pass in your window to show that you are a hotel guest.
pay-per-view movieเพย์-เพอร์-ว(ฟิ)ว มูฟวี่ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในกรณีที่จะดูหนังหรือโทรทัศน์ช่องพิเศษIf you order a pay-per-view movie, the charge will appear on your bill.
pillow caseพิลโล่วเคสปลอกหมอนRoom 201 doesn’t need their sheets changed, but they requested one newpillow case.
queen size bedควีน ไซ้ส์ เบ้ดเตียงสำหรับผู้เข้าพัก 2 คน แต่เล็กกว่าขนาด king sizeThey have a queen size bed so the small child can fit in the middle.
rateเรทราคาห้องพัก ณ ช่วงเวลานั้นOur rates change depending on the season.
reservationเร้เซอะเวเชิ่นการจองThey say they made a reservation but it doesn’t show on the computer.
room serviceรูม เซอร์วิสบริการต่างๆที่ส่งตรงถึงห้องIf you would like a bottle of wine, just call room service.
saunaซาวหน่าห้องอบไอน้ำWe don’t recommend bringing young children into the sauna.
single bedซิงเกิ้ลรูมเตียงเดี่ยวสำหรับผู้เข้าพัก 1 คนThe economy priced room includes onesingle bed.
sofa bed, pull-out couchโซเฟอะเบ้ด, พูลเอ้าท์เค้าช์เตียงโซฟาThe room contains a sofa bed so the room actually sleeps five.
towelsท้าว เอิ้ลผ้าเช็ดตัวYou can get your swimming pooltowels at the front desk.
twin bedทวิน เบ้ดเตียงเล็ก 2 เตียง สำหรับผู้เข้าพัก 2 คนOur twin bed rooms come with breakfast.
vacancy
noun
vacant
เว้ เคิ่น ซี่ห้องว่างที่สามารถเข้าพักได้We only have one vacancy left, and it is for a single room.
valetแวล เล่ท์พนักงานรับรถIf you leave your car keys with us, thevalet will park your car underground.
vending machineเว้(ฟ)นดิ้ง เหมอะชีนตู้หยอดเหรียญต่างๆThe vending machine on the fifth floor has chocolate bars and chips.
viewวิ(ฟ)วทิวทัศน์The room is more expensive because it has a spectacular view of the beach.
wake up callเว้คเอิ้พ คอลบริการปลุกWhat time would you like your wake up call?
weight room, workout room, gymเว้ท รูม, เวิ้คเอ่ท์ รูม, จีมห้องที่ผู้เข้าพักสามารถใช้ออกกำลังกายได้Our weight room has a stair climber and a stationary bicycle.
ป้ายจราจร

http://images.fineartamerica.com/images-medium-large-5/traffic-control-signs-on-black-russell-shively.jpg

คำศัพท์คำแปล
Air portสนามบิน
All Vehicles Prohibitedห้ามรถทุกชนิดผ่าน
Barเครื่องดื่ม
Bike Laneทางรถจักรยาน
Car Rentalรถเช่า
Caution Cliff Aheadระวังหน้าผาข้างหน้า
Caution Deer Crossingระวัง (กวาง) เดินข้ามถนน
Caution Poisonระวังสารพิษ
Caution Radiation Areaระวังสารกัมมันตรังสี
Coffee Shopร้านกาแฟ
Crossroadsสี่แยก
Danger High Voltageระวังไฟฟ้าแรงสูง
Dangerous Bendอันตรายทางโค้งหักศอก
Dual Carriage Way Endสิ้นสุดทางคู่
Exitทางออก
Floodedน้ำท่วมขัง
Hump Bridgeสะพานยกระดับ
Left Winding Roadทางคดด้านซ้าย
Mazeทางคดเคี้ยว
Narrow Bridgeสะพานแคบ
Narrow Roadทาง / ถนนแคบลง
No Audibleห้ามใช้เสียง / กดแตร
No Bikesห้ามรถจักรยาน
No Double Parkingห้ามจอดรถซ้อนคัน
No Entryห้ามเข้า
No Over Takingห้ามแซง
No Parkingห้ามจอดรถ
No Passing Zoneเขตห้ามผ่าน
No Pedestriansห้ามเดินข้าม
No Standing and Parkingห้ามหยุดและห้ามจอด
No Turn Leftห้ามเลี้ยวซ้าย
No Turn Rightห้ามเลี้ยวขวา
No U – Turnห้ามกลับรถ
One Wayให้เดินรถทางเดียว
One Way Trafficเดินรถทางเดียว
Pedestrian Crossingทางม้าลาย
Railway Crossing Without Gateทางรถไฟข้างหน้า (ไม่มีเครื่องกั้น)
Reduce Speedลดความเร็ว
Right Tune Splitทางแยกด้านขวาข้างหน้า
Right Winding Roadทางคดทางขวา
Road Closed Aheadถนนปิดด้านหน้า
Road narrows on rightถนนทางฝั่งขวาแคบลง
Road Work Aheadด้านหน้ามีการสร้างถนน
Roundabout Aheadวงเวียนข้างหน้า
Services Stationสถานีบริการน้ำมัน
Shoulder Aheadมีการทำงานบนไหล่ทางด้านหน้า
Side Roadมีถนนตัดด้านข้าง
Signal Aheadสัญญาณไฟข้างหน้า
Slippery Roadระวังถนนลื่น
Speed Limited (90km/ h)จำกัดความเร็ว ไม่เกิน 90 กม./ ชม.
Staggered junctionมีทางแยกเหลี่ยมกัน
Steep Hill Ascentทางขึ้นลาดชัน
Steep Hill Descentทางลงลาดชัน
Stopให้หยุดรถ
T- junctionสามแยก
Taxi / Busแท๊กซี่ / รถประจำทาง
Telephoneโทรศัพท์
Trucks Prohibitedห้ามรถบรรทุกเข้า
Tunneอุโมงค์
Turn Leftให้เลี้ยวซ้าย
Turn Rightให้เลี้ยวขวา
Two Way Trafficเดินรถสวนทางกัน
Uneven Roadถนนขรุขะ
Washboard roadลูกระนาด
Weight Limitationจำกัดน้ำหนักบรรทุก
Width Limitationจำกัดความกว้าง
เกี่ยวกับการ shopping

http://photo.facegfx.com/static/vector/2015/3/19/facegfx-vector-shopping-girl-3-cartoon-vector.jpg

customer – ลูกค้า
cashier / clerk – พนักงานแคชเชียร์

attendant / assistant – พนักงานผู้ช่วย

manager – ผู้จัดการ
aisle – ทางเดินระหว่างชั้นสินค้า
bags – กระเป๋า

barcode – รหัส

basket – ตะกร้า
elevator – ลิฟต์
escalator – บันไดเลื่อน
fitting room – ห้องลองเสื้อ
gift voucher – บัตรของขวัญ
purse – กระเป๋าเงิน (ผู้หญิง)
receipt – ใบเสร็จ
scale – เครื่องชั่ง
shelf – ชั้นวางสินค้า
till / counter – ที่ชำระเงิน
trolley – รถเข็น
wallet – กระเป๋าเงิน (ผู้หญิง)
cash – เงินสด
cheques – เช็ค

coins – เหรียญ

credit card / debit card – บัตร
loyalty card – บัตรสมาชิกสะสมแต้ม
notes – ธนบัตร
bakery – ร้านขนมปัง
book shop – ร้านขายหนังสือ

boutique – ร้านขายเสื้อผ้านำสมัย

butcher’s – ร้านขายเนื้อสัตว์
convenience store – ร้านสะดวกซื้อ
department store – ห้างสรรพสินค้า
DIY store – ร้านขายของประดิษฐ์ด้วยตนเอง
electrical store – ร้านขายเครื่องใชเไฟฟ้า
florist – ร้านขายดอกไม้
gardening store – ร้านขายอุปกรณ์ทำสวน 
grocery store – ร้านขายของชำ
haberdashery – ร้านขายเสื้อผ้าผู้ชาย
hardware store – ร้านขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์
jewellery store – ร้านเครื่องเพชร
newsagents – ร้านขายหนังสือพิมพ์
optical store – ร้านแว่น
pharmacy – ร้านขายยา
post office – ไปรษณีย์
seafood store – ร้านขายอาหารทะเล
secondhand shop – ร้านขายสินค้ามือสอง
shoe shop – ร้านขายรองเท้า
tailor’s shop – ร้านตัดเสื้อ
toy shop – ร้านขายของเล่น